ต้อนรับปีขาลที่จันทสราศรม

ครั้งแรกที่หลวงพี่มาเยือนจันทสราศรมคือหลังวันออกพรรษาเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ หลังจากป๋าอธิราชและแม่นิด พรภัทรา พันธเสนนำสำเนาโฉนดที่ดินมามอบให้เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ครั้งที่สองนั้นติดรถมากับคณะของหลวงพี่หมอปองแห่งป่าแป๋เชียงใหม่เพื่อไปกราบคารวะฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าคณะผู้ปกครองคณะสงฆ์เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายนและมาพักอยู่ที่สำนักสงฆ์เขาดิน ครั้งนั้นไม่ได้ไปเหยียบแผ่นดินจันทสราศรมด้วยซ้ำ เพราะอยู่ในช่วงที่ป๋าอธิราชกำลังเจรจาต่อรองเพื่อขยายผืนดินให้จากเดิมที่ถวายมา ๑๘ ไร่ ๒ งาน ๗๒ ตารางวา เมื่อรู้แน่ว่ามีการทำสัญญาจะซื้อจะขายวางมัดจำที่ดินส่วนขยายอีก ๑๒ ไร่ ๑ งานเศษ โดยป๋าอธิราชเป็นผู้จ่ายค่ามัดจำทั้งหมดแล้ว หลวงพี่จึงได้เดินทางลงมาจันทสราศรมเป็นครั้งที่ ๓ เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ โดยตั้งใจว่ามาคราวนี้จะปักหลักสร้างกันเลยทีเดียว เวลาไม่คอยท่าแล้ว ..

บางคนอาจสงสัยว่าทำใมหลวงพี่จะต้องรีบนักหนา คำตอบก็คือหลวงพี่มาบวชบูชาธรรมหลวงพ่อธัมมชโยตอนท่านอายุ ๖๐ ปีเมื่อปี ๒๕๔๗ และในปี ๒๕๖๗ ท่านจะมีอายุครบ ๘๐ ปีและหลวงพี่จะบวชครบ ๒๐ พรรษาเป็นพระมหาเถระ จึงต้องการสร้างจันทสราศรมให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติถวายบูชาธรรมท่าน ก็คือเหลือเวลาอีกเพียง ๒ ปีเศษเท่านั้น อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งที่เหมาะกับการทำงานก่อสร้าง จากประสบการณ์ตอนอยู่อุ้มผางหลวงพี่รู้ดีว่าพอฤดูฝนมาเยือนแล้วงานก่อสร้างจะทำได้ล่าช้าและลำบากมาก เพราะฉะนั้นเราต้องรีบฉวยโอกาสนี้ทำงานพื้นฐานให้เร็วที่สุด งานพื้นฐานคืออะไร? ก็คือการทำถนนหนทาง ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า ตาม Master plan ซึ่งเป็นแบบแปลนหลักว่าหน้าตาโดยรวมของโครงการ อาคารสถานที่ สระ ถนน ทางเข้าออกอยู่ตรงไหน? แต่ก่อนจะออก Master plan ที่ลงตัวถูกต้อง ผู้ออกแบบจะต้องรู้ความลาดเอียงและสภาพทางภูมิศาสตร์ของพี้นที่ก่อน

เพราะฉะนั้นตั้งแต่มาถึงสำนักสงฆ์เขาดินเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วหลวงพี่จึงได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายอย่างไม่ยอมให้วันเวลาล่วงเลยไปเปล่าๆเลย ยกตัวอย่างเช่นได้พบกับนายกอบต.ตำบลแสงอรุณ ในวันรุ่งขึ้น (จริงๆแล้วนัดเจอท่านในวันที่เดินทางมาถึงเลยด้วยซ้ำ แต่หลวงพี่มาถึงทับสะแกบ่ายแล้วท่านนายกอบต.ติดธุระ) ด้วยบุญบันดาลในวันที่เจอนายกอบต.ก็ได้เจอกับเพื่อนบ้านในละแวกนั้นเช่น คุณธรรมนูญชาวสวนมะพร้าวจิตอาสาที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยทางหลวงด้วย และลุงสุดผู้เอาวัวมาเลี้ยงในที่ของเราเป็นต้น เนื่องจากคุณปัญญาเป็นผู้ที่มีความสามารถในการผูกมิตรกับคนแปลกหน้าได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ต่อมาเราสามารถหากำลังเสริมมาช่วยงานให้ลุล่วงไปตามความต้องการอย่างไม่น่าเชื่อหลายต่อหลายครั้ง ในช่วงนี้หลวงพี่ได้ติดต่อจนกระทั่งได้รถไถมาตัดหญ้า ได้คุณวิโรจน์ วิศวกรโยธาที่ตัวจังหวัดประจวบฯมาทำการสำรวจความลาดเอียงของพื้นที่ (ทำ contour) และข้อมูลความสูงต่ำของพื้นที่นี้ได้ถูกส่งต่อไปยังทีมออกแบบแล้ว และยังได้ติดต่อประสานงานให้คุณสมจิตเจ้าของบริษัทกอมังดีนำไผ่แช่น้ำยาจากกาญจนบุรีมาส่ง เรื่องไผ่นี้หลวงพี่ประสานเอาไว้ตั้งแต่เมื่อตอนไปดูงานที่โรงงานของคุณสมจิตที่กาญจนบุรีและได้มัดจำสั่งเตรียมไผ่ไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน นอกจากนั้นยังติดต่อสั่งผ้าใบมาประกอบกับโครงเต็นท์อีก ๓ หลัง

เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ๒๕ ธ.ค. ตรงกับวันพุทธมาส หลวงพี่ได้ออกรายการซูม club heart ซึ่งดำเนินรายการโดยคุณต้อม บุศฎี หลวงพี่ให้สัมภาษณ์อยู่บนกุฏิ ส่วนป้าเม้าเปิดมือถือดูผ่านซูมอยู่บริเวณห้องครัว ปรากฎว่าป้าเม้าปลื้มใจมาก วันรุ่งขึ้นคือวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ป้าเม้าจึงเรียกให้ลูกชายคือ ดร.วนิชย์ ปักษ์กิ่งเมือง(ผู้กว้างขวางของทับสะแก)มาพบหลวงพี่ที่สำนักสงฆ์เขาดิน และดร.วนิชย์นี่เองที่ช่วยประสานให้งานหลายอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้แบบฉิวเฉียดหลายครั้ง และเอื้อเฟื้อเอารถไถมาจอดเอาไว้ที่จันทสราศรมให้เราได้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าอีกด้วย

เนื่องจากหลวงพี่ตั้งใจว่าจะต้องจัดสวดมนต์ข้ามปีที่จันทสราศรมให้ได้ เป็น milestone ที่แทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย ทุกอย่างมาถึงจุดไคลแม็กซ์ตั้งแต่วันอังคารวันพุธที่ผ่านมานี่เองที่จะต้องทำงานพร้อมๆกันหลายอย่างให้สอดคล้องกันให้มากที่สุด รถขนไผ่มาจากกาญจนบุรีมาถึงโดยไม่มีคนงานขนไผ่ลงติดรถมาด้วย ทางเชื่อมจากถนนเพชรเกษมที่จะให้รถหกล้อใหญ่ลงพื้นที่ของเราก็คับแคบถ้ารถใหญ่จะเลี้ยวเข้ามาต้องตีวงกินเลนการจราจรทั้งหมด เนื่องจากถนนเพชรเกษมเป็นถนนสายหลักรถยนต์หนาแน่นและขับกันเร็วมาก จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น การที่จะเอาไผ่ลงจากรถบันทุกก็ต้องมีท่อนไม้รองรับไม่ให้ไผ่กองอยู่บนกองดินกองทรายเพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันความเปียกชื้นจากพี้นดิน ต้องมีหลังคาป้องกันไม่ให้ไผ่ตากแดดตากฝน จะต้องมีห้องน้ำฯลฯ แต่ในที่สุดในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากปีฉลูมาเป็นปีขาลเมื่อคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคมที่ผ่านมาทุกอย่างก็เสร็จทันใช้ตามแผนอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ได้ไผ่มาเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้เต็นท์ที่คอยกันแดดกันฝนให้ มีเต็นท์ที่ใช้เก็บข้าวของ นั่งทำงาน ต้อนรับแขกและอาศัยพักผ่อนจำวัตร มีถังพร้อมน้ำ 2,000 ลิตร มีห้องน้ำมิดชิดและขับถ่ายได้ ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนปี 2564 จะล่วงเลยไปหลวงพี่จึงได้สรงน้ำในห้องน้ำชั่วคราวที่คุณปัญญาเริ่มทำหลังตะวันตกดินแล้วจนเสร็จตอนสี่ทุ่มครึ่งโดยใช้น้ำที่อบต.เอามาเติมให้เมื่อตอนสาย ตอนสรงน้ำแหงนหน้าขึ้นไปเห็นดาวเต็มฟ้าเพราะไม่มีหลังคา แต่มันเป็นความรู้สึกดีแบบที่บรรยายไม่ได้ พอสรงน้ำเสร็จก็เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีกับวัดพระธรรมกายผ่าน GBN จนถึงปีใหม่ 2565

เมื่อปีขาลรอบที่แล้วหลวงพี่ไปทำงานพระศาสนาอยู่ที่อุ้มผาง ผ่านไปสิบสองปีหลวงพี่มาเริ่มงานสร้างบารมีที่บ้านแสงทอง ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดูจากชื่อหมู่บ้านและตำบลแล้วเหมือนจะเป็นสัญญาณว่า แสงทองแห่งธรรมะกำลังจะเรืองรองขึ้นดั่งอาทิตย์อรุณที่ดินแดนแห่งนี้ที่หลวงพี่เรียกว่า”จันทสราศรม” .. ขอเชิญชวนพวกเรามาเดินไปด้วยกันบนหนทางแห่งการสร้างบารมีเผยแผ่พระพุทธศาสนาในครั้งนี้ ให้ปีขาลปีนี้เป็นปีอัศจรรย์แห่งการสร้างบารมีของพวกเราทุกคน ..

พม.ธาดา จรณธโร (ผู้เกิดปีขาลเมื่อห้ารอบที่แล้ว)

๒๑.๒๑ น. วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ ณ สำนักสงฆ์เขาดิน ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์