เครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่ตัวประวัติศาสตร์
นี่คือเครื่องขยายเสียงกระเป๋าหิ้วตัวประวัติศาสตร์ อนาคตอาจต้องเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์.. เมื่อเช้าแจ็ค(จักรวาล)ขนเครื่องมือและข้าวของจาก ๒๙ ไร่ไปให้หลวงพี่ที่ศูนย์คลองสี่ (ดีใจมากเลยที่ได้เจอบาตรและพัดปธ.๓) หลวงพี่เลยติดรถแจ็คออกมาลงเมกาโฮมเพื่อซื้อโซ่ไปล่ามของและถือแอมป์ตัวนี้มาเซียร์เพื่อบำรุงรักษา มาถึงเซียร์ยังไม่เปิด เลยมานั่งรอในสตาร์บัคส์ นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบยี่สิบปีที่เข้ามาในร้านสตาร์บัคส์แบบตัวคนเดียว ครั้งสุดท้ายคือตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นตอนยังไม่บวช แอมป์ตัวนี้อยู่กับหลวงพี่มาเกือบสิบปีแล้ว ใช้จัดงานบุญ ทั้งอบรมพระ เณร นักเรียน เยาวชน ทอดกฐิน ผ้าป่าฯลฯ หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งที่ประทับใจที่สุดคือกลางเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙ ตอนนั้นหลวงพี่อยู่ที่สำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง เย็นวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับปฏิบัติการท่านหนึ่งโทร.มาหาหลวงพี่แล้วบอกว่า “พอจ.ครับ ตอนนี้ทีมงาน ทหาร ตำรวจ ตชด. ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ฯลฯ อยู่ที่สภอ.อุ้มผาง ฉายรูปพอจ.ขึ้นโปรเจคเตอร์และขอให้ตำรวจไปศาลแม่สอดเพื่อออกหมายจับพอจ.ในข้อหามีความประพฤติเป็นผู้มีอิทธิพลครับ.. พรุ่งนี้จะเข้าตรวจยึดศูนย์อบรมเยาวชนอุ้มผาง มีสื่อมวลชนติดตามมารอทำข่าวมากมาย” พอได้ทราบข่าวจากจนท.คนนั้นหลวงพี่ก็มานั่งทบทวนตัวเองว่าตั้งแต่อาสา(ไม่มีใครบังคับหรือจัดให้หลวงพี่ไปอุ้มผางนะ)มาทำงานพระศาสนาที่อุ้มผางนี่หลวงพี่ทำอะไรเสียหายหรือฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองบ้างไหม? ก็พบว่าเรามีความบริสุทธิ์ใจ และก็ทำตามขั้นตอน ธรรมเนียมในท้องถิ่นและกฎหมายบ้านเมืองทุกประการ หลวงพี่ก็เลยบอกสามเณรสมพจน์ว่า พรุ่งนี้เราไปที่ศูนย์อบรมเยาวชนอุ้มผางกัน(ศูนย์ฯอยู่ต.หนองหลวง คนละตำบลกับสำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์ซึ่งอยู่ต.แม่จัน) บอกให้สามเณรเตรียมเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่(ตัวประวัติศาสตร์ตามรูปข้างบน) ไปด้วย เห็นว่ามีนักข่าวมาเยอะเลย ก็ดีเหมือนกันพอจ.จะได้ไปชี้แจงให้ทั้งหมดทราบว่าอะไรเป็นอะไร ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังฉันเช้าเสร็จหลวงพี่ก็ห่มดองครองผ้า มีย่ามติดตัวใบเดียวพร้อมซองปัจจัย มีผ้าไตรติดตัวชุดเดียว มีสามเณรติดตามรูปเดียวพร้อมกับแอมป์เคลื่อนที่ ให้สารถีขับรถมุ่งหน้าสู่ศูนย์อบรมเยาวชนอุ้มผางที่ห่างออกไปทางไปตัวอำเภอ …